วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557
การทอผ้าไหมของไทยมีมาเนิ่นนานแล้ว แต่เดิมปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและสาวไหมเองโดยใช้กี่ธรรมดา เพื่อทอใช้สอยกันภายในครอบครัวเท่านั้น และจัดได้ว่าเป็นงานหัตถกรรมอย่างหนึ่งที่ต้องใช้ความประณีตและความพิถีพิถันในการผลิตอย่างยิ่งยวด เส้นใยไหมที่ถักสานร้อยเรียงกันแต่ละเส้นจากกี่ทอมือจึงแลกมาด้วยความอุตสาหะ ทำให้เป็นผ้าที่มีค่ายิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงถูกเลือกให้เป็นผ้าที่ใช้สวมใส่เฉพาะเทศกาลสำคัญ หรือมอบเป็นของขวัญสำหรับคนที่รับและนับถือ ไหมได้รับสมญานามว่าเป็นราชินีแห่งเส้นไหม
เนื่องจากมีความเงางามอ่อนนุ่มตามธรรมชาติและมีคุณสมบัติดีในการระบายความร้อนและดูดซับน้ำได้ดี จึงรู้สึกสบายตัวเมื่อสวมใส่ ต่อมาการทอไหมกลายเป็นอุตสาหกรรมจนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งชาวไทยและต่างประเทศ สิ่งที่ทำให้ผ้าไหมไทยประทับใจผู้บริโภคเหนือคำโฆษณาใด ๆจนโด่งดังไปทั่วโลกก็คือรัศมีแห่งความงดงามที่ทอแสงเป็นประกายจากผ้าไหมนั้นเอง โดยในปี 2512 ไทยส่งออกผ้าไหมรวม 652,349 ตารางเมตร ไปยัง 77 ประเทศทั่วโลก (ที่มา: สถิติปริมาณผ้าไหมไทยที่ส่งออกไปต่างประเทศ ตามใบรับรองมาตรฐานสินค้าของสำนักงานมาตรฐานสินค้าในปี พ.ศ.2512
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)